สวัสดีครับผม ขอโทษที่ให้รอนานนะครับ กำลังรวบรวมเนื้อหาเกี่ยวกับภาษาอังกฤษให้ทุก ๆ คนอยู่นะครับ สำหรับวันนี้ก็จะมาอธิบายในเรื่อง “Time” หรือ การอ่านเวลาในภาษาอังกฤษครับ ว่าเค้าจะมีวิธีอ่านกันอย่างไรบ้าง เรามาทราบพร้อม ๆ กันเลยนะครับ
การอ่านเวลาในภาษาอังกฤษนั้น จะมีวิธีการอ่านที่หลากหลาย พอ ๆ กับ การอ่านเวลาตามบ้านเรา สมมติว่า ถ้าตอนเช้า เข็มยาวชี้เลข 7 เข็มยาวชี้เลข 12 เราก็จะบอกว่าเวลา 7 นาฬิกา หรือ 7 โมงเช้าตามภาษาของเรา ถ้าเป็นตอนบ่าย เช่น เข็มสั้นชี้เลข 3 เข็มชี้เลข 12 เราก็จะบอกว่าเวลา 15 นาฬิกา หรือ บ่าย 3 โมง เป็นต้น ภาษาอังกฤษก็เหมือนกัน ก็มีวิธีอ่านที่มากมายเช่นกัน เรามาอ่านพร้อม ๆ กันได้เลยครับ
รูปภาพข้างบนนี้ คือ การบอกเวลาเมื่อเข็มยาวชี้ไปยังเลขต่าง ๆ ซึ่งแต่ละเลขจะอ่านว่ายังไง เรามาทราบพร้อมกันเลยครับ
- ฝั่งขวามือ ตั้งแต่เลข 1-6 จะใช้คำว่า past ซึ่งจะแสดงถึงเวลาที่ผ่านมาว่าผ่านมาแล้วกี่นาที ส่วนเลข 3 นั้น จะใช้คำว่า It’s a quarter past … ซึ่งไม่ได้ใช้คำว่า It’s fifteen past … ในส่วนเลข 6 ก็เหมือนกัน จะไม่ใช้คำว่า It’s thirty past … แต่ใช้คำว่า It’s half past … แทน สำหรับเลข 3 ที่ใช้คำว่า quarter นั้น ผมเดาว่าเหมือนเวลาทางอเมริกาที่เค้าเล่นบาสเกตบอล มันจะมี 4 quarter ซึ่ง quarter นึง จะมีอยู่ 15 นาที ดังนั้น 4 quarter จึงมีค่าเท่ากับ 60 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง (15×4=60) ส่วนเลข 6 ที่ใช้คำว่า half นั้น เพราะคำว่า half แปลว่า ครึ่งนึง ดังนั้น ครึ่งนึงของ 60 นาที ก็เท่ากับ 30 นาทีนั้นเอง (60÷2=30)
- ส่วนฝั่งซ้ายมือนั้น ตั้งแต่เลยเลข 6 มา 1 นาที จนเกือบจะถึงเลข 12 จะใช้คำว่า to ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอีกกี่นาทีจะถึงเวลานั้น ๆ ยกเว้น ถ้าเข็มยาวชี้เลข 9 เราจะไม่ใช้คำว่า It’s fifteen to … แต่เราจะใช้คำว่า It’s quarter to … แทน ซึ่งแปลว่า อีก 15 นาทีจะถึงกี่โมง
*** ในรูปภาพคำว่า “quarter” นั้น ต้องมีตัว “R” ต่อตัว “A” นะครับ
เราก็ทราบกันแล้วนะครับว่า ถ้าเข็มยาวชี้ไปทางขวามือและทางซ้ายมือ จะอ่านว่ายังไง ถ้าเพื่อน ๆ ยังไม่เข้าใจ ผมจะลองยกตัวอย่างจากรูปภาพนาฬิกาที่มีเข็มยาวชี้ไปเลขต่าง ๆ ให้ทราบนะครับ เรามาอ่านพร้อม ๆ กันเลย
ในภาพจะแสดงให้เห็นถึงนาฬิกาที่เข็มยาวและเข็มสั้นชี้ไปยังเลขต่าง ๆ เรามาทราบพร้อม ๆ กันเลยครับว่าแต่ละข้อจะอ่านแบบไหนกัน
1.)It’s two o’clock. คือ 2 นาฬิกา หรือ บ่าย 2 โมงตรง
2.)It’s twenty-five to eight. หรือจะเขียนอีกแบบนึงก็ได้คือ It’s eight thirty-five. ก็ได้ คือ อีก 25 นาทีจะถึง 8 โมง หรือ 7 โมง 35 นาที
3.)It’s twenty to five. หรือ It’s four forty. คือ อีก 20 นาทีจะถึง 5 โมง หรือ 4 โมง 40 นาที
4.)It’s quarter to twelve. หรือ It’s eleven forty-five. คือ อีก 15 นาทีจะถึง 12 นาฬิกา หรือ 11 โมง 45 นาที
5.)It’s five to nine. หรือ It’s eight fifty-five . คือ อีก 5 นาทีจะถึง 9 โมง หรือ 8 โมง 55 นาที
6.)It’s ten to five. หรือ It’s four ffifty. คือ อีก 10 นาทีจะถึง 5 โมง หรือ 4 โมง 50 นาที
7.)It’s five past ten. หรือ It’s ten five. คือ 10 โมงผ่านไป 5 นาที หรือ 10 โมง 5 นาที
8.)It’s ten past twelve. หรือ It’s twelve ten. คือ เที่ยงวัน/เที่ยงคืนผ่านไป 10 นาที หรือ เที่ยงวัน/เที่ยงคืน 10 นาที
9.)It’s twenty-five past one. หรือ It’s one twenty-five. คือ 1 นาฬิกา/บ่ายโมงผ่านไป 25 นาที หรือ 1 นาฬิกา/บ่ายโมง 25 นาที
10.)It’s twenty past ten. หรือ It’s ten twenty. คือ 10 โมง ผ่านไป 20 นาที หรือ 10 โมง 20 นาที
11.) It’s half past eight. หรือ It’s eight thirty. คือ 8 โมง ผ่านมา 30 นาที หรือ 8 โมงครึ่ง
12.) It’s quarter past one. หรือ It’s one fifteen. คือ 1 นาฬิกา/บ่ายโมง ผ่านมา 15 นาที หรือ 1 นาฬิกา/บ่ายโมง 15 นาที
*** ทุกคนจะเห็นว่าผมบอกเวลาอยู่ 2 แบบ แบบแรก คือ แบบที่อ่านตามซีกนาฬิการูปข้างบนที่ผมให้ดู ส่วนอีกแบบนึงที่ผมอ่านนั้น คือ อ่านจากเข็มสั้นที่เป็นชั่วโมงก่อนแล้วอ่านเข็มยาวที่เป็นนาทีตาม สรุป คือ แบบแรกอ่านแบบหลักการ ส่วนอีกแบบ อ่านตามเวลาไปเลยครับ
*** สำหรับเข็มยาวชี้เลข 12 นั้น ให้อ่านว่า O’Clock ไปเลยครับ เพราะอ่านได้แบบเดียว สำหรับเข็มยาวกับเข็มสั้นชี้เลข 12 นั้น จะมีความพิเศษหน่อยนึง ถ้าเข็มยาวกับเข็มสั้นชี้เลข 12 ตอนกลางวัน จะอ่านว่า It’s noon. หรือ It’s midday.แปลว่า เที่ยงวัน ส่วนถ้าเข็มยาวกับเข็มสั้นชี้เลข 12 ในตอนกลางคืน จะอ่านว่า It’s midnight. ที่แปลว่า เที่ยงคืน ครับ
ส่วนที่ผมคั่นกลางไว้ คือ เราไม่ทราบว่าเวลานั้นเป็นตอนกลางวันหรือตอนกลางคืน เราไม่สามารถรู้ได้ แต่ผมจะมาบอกว่า การที่เราจะทราบได้ว่า เวลาไหนเป็นตอนกลางวันและเวลาไหนเป็นตอนกลางคืน เรามาทราบพร้อม ๆ กัน ได้เลยครับ
รูปภาพข้างบนนี้ คือ การแสดงให้รู้ว่า เวลากลางวันและกลางคืน เราสามารถทราบได้ยังไง
AM ย่อมาจาก Ante Meridiem = ใช้เวลา หลังเที่ยงคืน ถึง ก่อนเที่ยงวัน เริ่มที่ 00.01 น.ไปจนถึง 11.59 น.
PM ย่อมาจาก Post Meridiem = ใช้เวลา หลังเที่ยงวัน ถึง ก่อนเที่ยงคืน เริ่มตอน 12.01 น.ไปจนถึง 23.59 น.
*** ในทางแทบตะวันตกหรือฝรั่ง ถ้าสมมติเข็มสั้นชี้เลข 1 เข็มยาวชี้เลข 12 ในตอนกลางวัน จะไม่มีคำว่า It’s thirteen o’clock. เด็ดขาด เค้าจะใช้คำว่า It’s one o’clock p.m. ซึ่งหมายถึงเวลาบ่ายโมง เนื่องจากทางฝั่งจะวันตกจะนับเวลาแค่ 12 ชั่วโมง ซึ่งไม่เหมือนกับเมืองไทยที่ใช้เวลานับแบบ 24 ชั่วโมง
เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับความรู้เกี่ยวกับเรื่องของการอ่านเวลาในภาษาอังกฤษ หวังว่าหลาย ๆ คน คงจะอ่านเวลาได้ถูกต้องและชัดเจนกว่าเดิมนะครับ หรือสำหรับใครที่ไม่เคยรู้ วันนี้ก็ได้รู้พร้อม ๆ กันแล้วนะครับ วันนี้ความรู้เรื่องเวลาก็จบลงแล้ว ครั้งต่อไป ผมจะอธิบายเรื่องอะไรเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ โปรดติดตามชมกันไก้นะครับ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ หวังว่า จะเป็นประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อยนะครับผม
การอ่านเวลาในภาษาอังกฤษนั้น จะมีวิธีการอ่านที่หลากหลาย พอ ๆ กับ การอ่านเวลาตามบ้านเรา สมมติว่า ถ้าตอนเช้า เข็มยาวชี้เลข 7 เข็มยาวชี้เลข 12 เราก็จะบอกว่าเวลา 7 นาฬิกา หรือ 7 โมงเช้าตามภาษาของเรา ถ้าเป็นตอนบ่าย เช่น เข็มสั้นชี้เลข 3 เข็มชี้เลข 12 เราก็จะบอกว่าเวลา 15 นาฬิกา หรือ บ่าย 3 โมง เป็นต้น ภาษาอังกฤษก็เหมือนกัน ก็มีวิธีอ่านที่มากมายเช่นกัน เรามาอ่านพร้อม ๆ กันได้เลยครับ
รูปภาพข้างบนนี้ คือ การบอกเวลาเมื่อเข็มยาวชี้ไปยังเลขต่าง ๆ ซึ่งแต่ละเลขจะอ่านว่ายังไง เรามาทราบพร้อมกันเลยครับ
- ฝั่งขวามือ ตั้งแต่เลข 1-6 จะใช้คำว่า past ซึ่งจะแสดงถึงเวลาที่ผ่านมาว่าผ่านมาแล้วกี่นาที ส่วนเลข 3 นั้น จะใช้คำว่า It’s a quarter past … ซึ่งไม่ได้ใช้คำว่า It’s fifteen past … ในส่วนเลข 6 ก็เหมือนกัน จะไม่ใช้คำว่า It’s thirty past … แต่ใช้คำว่า It’s half past … แทน สำหรับเลข 3 ที่ใช้คำว่า quarter นั้น ผมเดาว่าเหมือนเวลาทางอเมริกาที่เค้าเล่นบาสเกตบอล มันจะมี 4 quarter ซึ่ง quarter นึง จะมีอยู่ 15 นาที ดังนั้น 4 quarter จึงมีค่าเท่ากับ 60 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง (15×4=60) ส่วนเลข 6 ที่ใช้คำว่า half นั้น เพราะคำว่า half แปลว่า ครึ่งนึง ดังนั้น ครึ่งนึงของ 60 นาที ก็เท่ากับ 30 นาทีนั้นเอง (60÷2=30)
- ส่วนฝั่งซ้ายมือนั้น ตั้งแต่เลยเลข 6 มา 1 นาที จนเกือบจะถึงเลข 12 จะใช้คำว่า to ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอีกกี่นาทีจะถึงเวลานั้น ๆ ยกเว้น ถ้าเข็มยาวชี้เลข 9 เราจะไม่ใช้คำว่า It’s fifteen to … แต่เราจะใช้คำว่า It’s quarter to … แทน ซึ่งแปลว่า อีก 15 นาทีจะถึงกี่โมง
*** ในรูปภาพคำว่า “quarter” นั้น ต้องมีตัว “R” ต่อตัว “A” นะครับ
เราก็ทราบกันแล้วนะครับว่า ถ้าเข็มยาวชี้ไปทางขวามือและทางซ้ายมือ จะอ่านว่ายังไง ถ้าเพื่อน ๆ ยังไม่เข้าใจ ผมจะลองยกตัวอย่างจากรูปภาพนาฬิกาที่มีเข็มยาวชี้ไปเลขต่าง ๆ ให้ทราบนะครับ เรามาอ่านพร้อม ๆ กันเลย
ในภาพจะแสดงให้เห็นถึงนาฬิกาที่เข็มยาวและเข็มสั้นชี้ไปยังเลขต่าง ๆ เรามาทราบพร้อม ๆ กันเลยครับว่าแต่ละข้อจะอ่านแบบไหนกัน
1.)It’s two o’clock. คือ 2 นาฬิกา หรือ บ่าย 2 โมงตรง
2.)It’s twenty-five to eight. หรือจะเขียนอีกแบบนึงก็ได้คือ It’s eight thirty-five. ก็ได้ คือ อีก 25 นาทีจะถึง 8 โมง หรือ 7 โมง 35 นาที
3.)It’s twenty to five. หรือ It’s four forty. คือ อีก 20 นาทีจะถึง 5 โมง หรือ 4 โมง 40 นาที
4.)It’s quarter to twelve. หรือ It’s eleven forty-five. คือ อีก 15 นาทีจะถึง 12 นาฬิกา หรือ 11 โมง 45 นาที
5.)It’s five to nine. หรือ It’s eight fifty-five . คือ อีก 5 นาทีจะถึง 9 โมง หรือ 8 โมง 55 นาที
6.)It’s ten to five. หรือ It’s four ffifty. คือ อีก 10 นาทีจะถึง 5 โมง หรือ 4 โมง 50 นาที
7.)It’s five past ten. หรือ It’s ten five. คือ 10 โมงผ่านไป 5 นาที หรือ 10 โมง 5 นาที
8.)It’s ten past twelve. หรือ It’s twelve ten. คือ เที่ยงวัน/เที่ยงคืนผ่านไป 10 นาที หรือ เที่ยงวัน/เที่ยงคืน 10 นาที
9.)It’s twenty-five past one. หรือ It’s one twenty-five. คือ 1 นาฬิกา/บ่ายโมงผ่านไป 25 นาที หรือ 1 นาฬิกา/บ่ายโมง 25 นาที
10.)It’s twenty past ten. หรือ It’s ten twenty. คือ 10 โมง ผ่านไป 20 นาที หรือ 10 โมง 20 นาที
11.) It’s half past eight. หรือ It’s eight thirty. คือ 8 โมง ผ่านมา 30 นาที หรือ 8 โมงครึ่ง
12.) It’s quarter past one. หรือ It’s one fifteen. คือ 1 นาฬิกา/บ่ายโมง ผ่านมา 15 นาที หรือ 1 นาฬิกา/บ่ายโมง 15 นาที
*** ทุกคนจะเห็นว่าผมบอกเวลาอยู่ 2 แบบ แบบแรก คือ แบบที่อ่านตามซีกนาฬิการูปข้างบนที่ผมให้ดู ส่วนอีกแบบนึงที่ผมอ่านนั้น คือ อ่านจากเข็มสั้นที่เป็นชั่วโมงก่อนแล้วอ่านเข็มยาวที่เป็นนาทีตาม สรุป คือ แบบแรกอ่านแบบหลักการ ส่วนอีกแบบ อ่านตามเวลาไปเลยครับ
*** สำหรับเข็มยาวชี้เลข 12 นั้น ให้อ่านว่า O’Clock ไปเลยครับ เพราะอ่านได้แบบเดียว สำหรับเข็มยาวกับเข็มสั้นชี้เลข 12 นั้น จะมีความพิเศษหน่อยนึง ถ้าเข็มยาวกับเข็มสั้นชี้เลข 12 ตอนกลางวัน จะอ่านว่า It’s noon. หรือ It’s midday.แปลว่า เที่ยงวัน ส่วนถ้าเข็มยาวกับเข็มสั้นชี้เลข 12 ในตอนกลางคืน จะอ่านว่า It’s midnight. ที่แปลว่า เที่ยงคืน ครับ
ส่วนที่ผมคั่นกลางไว้ คือ เราไม่ทราบว่าเวลานั้นเป็นตอนกลางวันหรือตอนกลางคืน เราไม่สามารถรู้ได้ แต่ผมจะมาบอกว่า การที่เราจะทราบได้ว่า เวลาไหนเป็นตอนกลางวันและเวลาไหนเป็นตอนกลางคืน เรามาทราบพร้อม ๆ กัน ได้เลยครับ
รูปภาพข้างบนนี้ คือ การแสดงให้รู้ว่า เวลากลางวันและกลางคืน เราสามารถทราบได้ยังไง
AM ย่อมาจาก Ante Meridiem = ใช้เวลา หลังเที่ยงคืน ถึง ก่อนเที่ยงวัน เริ่มที่ 00.01 น.ไปจนถึง 11.59 น.
PM ย่อมาจาก Post Meridiem = ใช้เวลา หลังเที่ยงวัน ถึง ก่อนเที่ยงคืน เริ่มตอน 12.01 น.ไปจนถึง 23.59 น.
*** ในทางแทบตะวันตกหรือฝรั่ง ถ้าสมมติเข็มสั้นชี้เลข 1 เข็มยาวชี้เลข 12 ในตอนกลางวัน จะไม่มีคำว่า It’s thirteen o’clock. เด็ดขาด เค้าจะใช้คำว่า It’s one o’clock p.m. ซึ่งหมายถึงเวลาบ่ายโมง เนื่องจากทางฝั่งจะวันตกจะนับเวลาแค่ 12 ชั่วโมง ซึ่งไม่เหมือนกับเมืองไทยที่ใช้เวลานับแบบ 24 ชั่วโมง
เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับความรู้เกี่ยวกับเรื่องของการอ่านเวลาในภาษาอังกฤษ หวังว่าหลาย ๆ คน คงจะอ่านเวลาได้ถูกต้องและชัดเจนกว่าเดิมนะครับ หรือสำหรับใครที่ไม่เคยรู้ วันนี้ก็ได้รู้พร้อม ๆ กันแล้วนะครับ วันนี้ความรู้เรื่องเวลาก็จบลงแล้ว ครั้งต่อไป ผมจะอธิบายเรื่องอะไรเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ โปรดติดตามชมกันไก้นะครับ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ หวังว่า จะเป็นประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อยนะครับผม
Casino Review 2021 - Dr.MD
ReplyDeleteThis review of 광명 출장샵 the casino is a 서귀포 출장마사지 guide to playing online with real money, 세종특별자치 출장마사지 including its bonus, 오산 출장마사지 free spins and deposit options. Rating: 4.8 · Review by 영주 출장샵 Dr.MD